รัฐบาลอังกฤษกำลังเปิดประตูสำหรับฟุตบอลเพื่อที่จะกลับมาในเดือนมิถุนายน
โอลิเวอร์ โดว์เดน, รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม, สื่อ และกีฬา, บอกว่ารัฐบาล "กำลังเปิดประตู" สำหรับฟุตบอลเพื่อที่จะกลับมาในเดือนมิถุนายน
พรีเมียร์ลีกเริ่มทำการวางแผนสำหรับเกมต่างๆที่จะเล่นกันแบบไม่มีผู้ชมเนื่องด้วยการระบาดของไวรัสโคโรน่า - และผู้เล่นทั้งหลายอาจจะเตรียมกลับมาซ้อมในสัปดาห์หน้า
มาตรการความปลอดภัยต่างๆจะนำมาใช้ และโดว์เดนบอกว่าแผนการต่างๆของกีฬามีการสนับสนุนของรัฐบาล, ตราบใดก็ตามที่ความปลอดภัยยังคงอยู่ในระดับสูง
เขาได้จัดการประชุมร่วมกับผู้มีอำนาจของฟุตบอลเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และบอกว่า: "เราทุกคนเห็นด้วยว่าเราจะเดินหน้าต่อก็ต่อเมื่อหากมันมีความปลอดภัยให้ทำเช่นนั้น และสุขภาพกับสวัสดิภาพของผู้เล่น, โค้ช และสต๊าฟฟ์มาเป็นอันดับแรก"
"รัฐบาลกำลังเปิดประตูสำหรับฟุตบอลอย่างเป็นทางการเพื่อที่จะกลับมาอย่างปลอดภัยในเดือนมิถุนายน"
"นี่ควรจะรวมไปถึงการเข้าถึงในวงกว้างสำหรับแฟนๆเพื่อที่จะดูการถ่ายทอดสด และการทำให้แน่ใจว่าเงินทุนต่างๆจากการกลับมาของเกมการแข่งขันจะสนับสนุนครอบครัวฟุตบอลในวงกว้างมากขึ้น"
"ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจในฟุตบอลเพื่อที่จะเห็นชอบ และทำให้รายละเอียดแผนการต่างๆของพวกเขาเสร็จสิ้น และมีความสัมพันธ์ที่ดีร่วมกันในการทำสิ่งนี้ให้ประสบความสำเร็จเพื่อแฟนๆของพวกเขา, ชุมชนฟุตบอล และคนในชาติทั้งหมด"
"รัฐบาล และผู้เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์ของเราจะยังคงเสนอคำแนะนำ และการสนับสนุนไปยังเกมอย่างต่อเนื่องก่อนการตัดสินใจสุดท้ายใดๆก็ตามแต่ซึ่งจะพยายามทำให้แผนการเหล่านี้ไปสู่การแข่งขัน"
โจนาธาน วาน-ทาม รองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ทางด้านการแพทย์บอก ณ การพูดคุยสั้นๆของรัฐบาลเมื่อวันพฤหัสบดีว่าวันที่สำหรับกีฬาในการกลับมาแข่งกันต่อยังไม่มีการเซ็นอนุมัติ
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการกลับมาที่เป็นไปได้ของฟุตบอลในวันที่ 12 มิถุนายนนี้, ฟาน ทามบอกว่า: "วิธีการต่างๆโดยภาพรวมยังไม่สมบูรณ์, ต้องใช้ความรอบคอบ, ใช้เวลา, และนั่นคือแผนการอย่างชัดเจนที่จะการดำเนินการสำหรับทุกๆกีฬาชั้นนำ, ไม่เพียงแค่ฟุตบอลเท่านั้น"
"วิธีการต่างๆต้องใช้เวลา, ความรอบคอบอย่างมากเพื่อจะดูว่าอะไรที่สามารถจะทำได้อย่างสำเร็จโดยมีความปลอดภัย"
"เราจะต้องดูว่านั่นดำเนินการอย่างไรก่อนที่มันจะเป็นเวลาสำหรับการก้าวไปข้างหน้า, หรือแม้กระทั่งการคิดถึงการก้าวไปข้าวหน้า, เพื่อที่จะกลับไปยังเกมฟุตบอล"
"เราต้องใช้เวลา, เราต้องมีความรอบคอบ"
ที่มา : https://www.skysports.com/football/news/11095/11988442/coronavirus-government-supports-plans-for-football-to-return
เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค: ผมกำลังมองหา และทำงานกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค เชื่อว่าการเรียกร้องในตัวเขาที่มาจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ และลิเวอร์พูลเป็นรากฐานที่ช่วยให้เขายกระดับการเล่นของเขาไปสู่ระดับที่มันเป็นอยู่ ณ ตอนนี้
นับตั้งแต่การเข้ามายังแอนฟิลด์เมื่อเดือนมกราคม ปี 2018, เซ็นเตอร์แบ็ครายนี้คว้ารางวัลส่วนตัวมากมาย, รวมไปถึงทั้งรางวัลผู้เล่นแห่งปีของ PFA จากการโหวตโดยผู้เล่นด้วยกัน และผู้เล่นแห่งปีฝ่ายชายของ UEFA สำหรับฟอร์มของเขาเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา, และจบอันดับ 2 ในบัลลงดอร์
ในส่วนของรางวัลจากการทำงานร่วมกัน, ฟาน ไดจ์คมีบทบาทสำคัญเคียงข้างกับบรรดาเพื่อนร่วมทีมของเขาในการกวาดถ้วยรางวัลแชมเปี้ยนส์ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพของหงส์แดง, และฟอร์มในพรีเมียร์ลีกที่ยอดเยี่ยมของพวกเขา
และผู้เล่นวัย 28 ปีรู้สึกว่าการไปถึงความสุดยอดเช่นนั้นสามารถจะประสบความสำเร็จเนื่องจากความคาดหวังที่ผู้จัดการทีมของเขามี และการเรียกร้องของการเล่นให้กับลิเวอร์พูล
เขาบอกกับ BT Sport ว่า: "ด้วยความสัตย์จริงนะ, ใน 6 เดือนแรกที่ผมย้ายมาร่วมทีมเรามีช่วงเวลาฝึกซ้อมมากกว่าเดิม มันมีความเข้มข้น, มีหลายๆสิ่งที่แตกต่างที่กำลังจะสอบถามจากผม และผมสนุกกับมัน, ผมสนุกกับมันมาก - ผมสนุกกับการทำงานหนัก, กับการสนทนาต่างๆท่ีผมมีร่วมกับผู้เล่นบางคนเกี่ยวกับวิถีของลิเวอร์พูล, วิธีการท่ีเราเล่น"
"ผู้จัดการทีมเรียกร้องจากผมมากๆ และทั้งหมดมันช่วยผมให้กลายมาเป็นผู้เล่นที่ผมเป็นในวันนี้ มันคือการทำงานทางด้านแทคติค, มีการคิดอย่างมาก แน่นอนว่าในฐานะกองหลังเราพยายามที่จะดันสูงอย่างต่อเนื่อง, พยายามที่จะโยนความกดดันให้กับคู่แข่งอยู่ตลอดเวลา บางครั้งคุณทิ้งพื้นที่ว่างเอาไว้อย่างมากเอาไว้ด้านหลังคุณดังนั้นคุณต้องรับมือกับสิ่งนั้นด้วย"
"แต่มันคือบางสิ่งที่ผมสนุกอย่างไม่ต้องสงสัยเลย และผมรู้มาก่อนที่ผมจะมายังสโมสรว่านี่คือบางสิ่งที่ผมต้องทำงานในช่วงเริ่มต้นแต่มันจะเป็นบางสิ่งที่ผมจะสนุกอย่างแน่นอน และจนถึงตอนนี้, ดีมากๆ"
ถึงแม้ว่าระดับของฟาน ไดจ์คจะไปถึงระดับที่ยอดเยี่ยมในแง่ฟอร์มของการเล่นโดยส่วนตัวของเขากับช่วงเวลาที่ผ่านมา 2 ปีครึ่ง, แต่กัปตันทีมชาติเนเธอร์แลนด์ยังคงดำเนินการเพื่อที่จะพยายามพัฒนาการเล่นของเขาให้ไปได้ไกลยิ่งกว่านี้
"มีช่องว่างสำหรับการพัฒนาอยู่เสมอ; ผมรู้มัน และผมแค่พยายามที่จะมองไปยังมัน และทำงานกับมันอย่างต่อเนื่อง" ผู้เล่นหมายเลข 4 พูดต่อไป
"ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมทีมของผมทุกๆคน และแน่นอนว่าผู้จัดการทีม, และผู้จัดการทีมชาติก็ด้วย - โรนัลด์ คูมัน - แน่นอนว่านั่นจะช่วยผมให้ดีขึ้นยิ่งกว่าตอนนี้ ดังนั้นผมเพียงจะทำสิ่งนั้นต่อไป"
ปัจจุบันฟาน ไดจ์ค และเพื่อนร่วมทีมของเขากำลังฝึกซ้อมแบบห่างๆกันเนื่องด้วยการรระบาดของ COVID-19
โดยกลุ่มนักเตะลิเวอร์พูลกำลังดำเนินการทำงานทางด้านความฟิตแบบกลุ่มผ่านทางลิ้งค์วิดีโอ. และมีช่วงเวลาแยกซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทีมฟิตเนส
"แน่นอนว่าเราพยายามที่จะติดต่อกันในแต่ละวันจากแชทกลุ่มของเรา" ฟาน ไดจ์คกล่าว "แต่แน่นอนว่ามันแปลก, มันเป็นสถานการณ์ที่แปลกสำหรับทุกคนของเรา, สำหรับทุกๆคนในโลก - ในอาชีพใดๆก็ตามแต่ที่ทุกๆคนกำลังทำ เราต้องปรับตัว, เราต้องทำหลายๆสิ่งที่แตกต่างจากเดิม"
"แต่สิ่งสำคัญที่สุดแน่นอนเลยว่าคือสุขภาพของทุกๆคน ผมสามารถจะพูดสำหรับขอบเขตของตัวผมเองเท่านั้น, หากสิ่งนั้นโอเคหลังจากนั้นชัดเจนว่านั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด"
"ในส่วนของความฟิต, ผมเพียงพยายามที่จะรักษาความฟิตเอาไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้, ทำทุกๆการซ้อมที่เรามีการวางแผนที่จะทำร่วมกับทีม และทำให้แน่ใจว่าผมจะพร้อมสำหรับตอนที่ลีกกลับมาเริ่มต้นอีกครั้ง หลังจากนั้นเราจะได้เห็นสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นกัน"
ที่มา : https://www.liverpoolfc.com/news/first-team/395262-virgil-van-dijk-i-keep-looking-and-working-for-improvement
‘ผมจำทุกๆรายละเอียดได้’ – แจ็ค โรบินสัน พูดถึงวันที่เขาสร้างประวัติศาสตร์กับลิเวอร์พูล
การเสมอ 0-0 ของลิเวอร์พูลกับฮัลล์ ซิตี้เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ปี 2010 อาจจะไม่ได้อยู่ในความทรงจำของใครหลายๆคนอย่างเข้าใจได้
แต่สำหรับ แจ็ค โรบินสัน, มันคือโอกาสที่เขาจะไม่มีวันลืม
กองเชียร์หงส์แดงมาตลอดชีวิตรายนี้ไม่เพียงแต่ลงสนามนัดแรกของเขาให้สโมสรกับการเล่นทีมชุดใหญ่ในบ่ายวันอาทิตย์นั้น - ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองนาทีที่ 88 สำหรับเกมสุดท้ายของ ราฟาเอล เบนิเตซ ในฐานะผู้จัดการทีม - แต่เขายังสร้างประวัติศาสตร์ด้วย
ด้วยการที่อายุ 16 ปีกับ 250 วัน, โรบินสันกลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดเท่าท่ีเคยมีมาที่ประเดิมสนามนัดแรกให้กับลิเวอร์พูลในช่วงเวลานั้น มันคือการทำความฝันให้เป็นจริง
"ผมจำการได้รับโทรศัพท์ในคืนวันศุกร์ได้โดยบอกว่าผมกำลังจะเดินทางไปกับกลุ่มนักเตะ นั่นเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากสำหรับผม" กองหลังที่ตอนนี้อยู่กับเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดบอกกับเว็บไซต์สโมสรในสัปดาห์นี้
"แน่นอนว่าการฝึกซ้อมในวันก่อนเกม, ผมรู้สึกมีความกังวลอย่างแท้จริง - เป็นแบบการออกจากคอมฟอร์มโซนของผม, การอยู่ในกลุ่มนักเตะ และรอบๆผู้เล่นทั้งหลายที่ผมดูช่วง 10 ปีที่ผ่านมา, เท่าที่ผมสามารถจะจำความได้ในการดูลิเวอร์พูลมาโดยตลอดตั้งแต่นั้นมา"
"มันบ้ามากแต่เป็นประสบการณ์ที่ทำให้เห็นสิ่งต่างๆได้ชัดเจน และเป็นประสบการณ์ที่ผมไม่ลืม"
ในหนึ่งวันก่อนเกมการแข่งขันพรีเมียร์ลีก, โรบินสันไม่มีความคิดด้วยซ้พว่าเขาจะถูกรวมเข้าไปในกลุ่มนักเตะสำหรับเกมการแข่งขันของเบนิเตซฉะนั้นกับการลงมายังสนามนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย
แต่ภายในไม่กี่ชั่วโมงแข้งวัยรุ่นมาเตรียมพร้อมในฐานะผู้เล่นตัวสำรองสำหรับช่วงท้ายเกมที่เคซี สเตเดี้ยม - และเพียงเพิ่มความท้าทายเข้าไปอีก, ถูกส่งไปในบทบาทที่ไม่คุ้นเคย
"การอยู่บนม้านั่งสำรองคือบางสิ่งที่ผมไม่ได้รู้จนกระทั่งนาทีสุดท้าย" เขาอธิบาย "มันเป็นความกังวลแต่ไม่ได้กังวลมากจนเกินไปนักเลยจริงๆ , แค่เพราะผมไม่ได้คาดหวังอะไรก็ตามแต่"
"ผมแค่คาดว่าจะอยู่ใน และรอบๆทีม, การมีประสบการณ์ของการอยู่รอบๆผู้เล่นทั้งหลาย และการเห็นสิ่งที่มันเป็นในทีมชุดใหญ่"
"หลังจากนั้น, ผมทำการพิจารณาเมื่อผมอยู่บนม้านั่งสำรอง, นั่นคือตอนที่ความกังวลเริ่มจะเข้ามา เมื่อเกมเริ่มต้นขึ้นแล้วผมอยู่บนม้านั่งสำรองแบบจริงๆ, มันเพียงเป็นความสนุกโดยแท้จริง ผมเพียงรักมันอย่างที่สุด และผมพิจารณาว่ามันคือสิ่งที่ผมต้องการจะทำสำหรับช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของชีวิตผม"
"มีใครบางคนบอกกับผมก่อนเกม: 'หากคุณลงมาในวันนี้คุณจะทำลายสถิติ' มันเป็นแบบทำให้มันสำคัญมากยิ่งขึ้นนับจากตอนนั้น, เมื่อผมลงมาแล้วทำแบบนั้น"
"ราฟาแค่บอกว่า, 'สนุกกับมัน' ผมไม่สามารถจะจำคำพูดต่างๆได้แต่มันคลับคล้ายคลับคลาว่า, 'สนุกกับมัน, อย่าไปกังวล' จริงๆผมลงมาเป็นปีกซ้ายด้วย, ไม่ใช่ตำแหน่งถนัด!"
"ดังนั้นผมจึงมีความกังวลนิดหน่อย, ผมไม่เคยเล่นตรงนั้นมาก่อน แต่แน่นอนว่ามันเพียงเป็นความสนุกอย่างแท้จริงสำหรับช่วงเวลา 3 หรือ 4 นาทีเหล่านั้น, อะไรก็ตามแต่ที่มันเป็น สำหรับผมมันคือความฝันที่กลายมาเป็นจริงอย่างที่สุด"
โรบินสันรำลึกการได้สัมผัสบอลอาจจะ 3 ครั้งก่อนเสียงนกหวีดเป่าจบเกมจะดังขึ้นมายืนยันการแบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนนสำหรับลิเวอร์พูล และฮัลล์
มันคือตอนจบที่ไม่มีความหมายซึ่งสอดคล้องกับทั้งฤดูกาลลีกสำหรับทั้ง 2 ทีม, เนื่องด้วยหงส์แดงอยู่ที่ 7 และเจ้าบ้านตกชั้นไปยังเดอะ แชมเปี้ยนชิพในอันดับที่ 19
แต่การลงมาในช่วงสั้นๆซึ่งเป็นการทำลายสถิติ, โอกาสโดยภาพรวม, และการสนับสนุนที่มีให้เขาจากผู้เล่นอาชีพที่มีประสบการณ์มากกว่าในห้องแต่งตัวยังคงสดใหม่อยู่ในหัวของโรบินสันแม้จะผ่านมา 10 ปีแล้วก็ตาม
"ผมจำทุกๆรายละเอียดได้" ผู้เล่นวัย 26 ปีกล่าว "ในห้องเปลี่ยนชุดหลังจากนั้น, ทุกๆคนแสดงความยินดีกับผม"
"ทีมชุดใหญ่ดีกับผมมาก; ผมคิดว่านั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมจึงไม่กังวบ, เพราะพวกเขาดีกับผมมากๆ, หากพิจารณาว่าผมอายุน้อยเพียงใด พวกเขาทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย และให้การต้อนรับผมโดยทันที"
"ผมเก็บเสื้อตัวนั้นไว้, ผมเก็บรูปต่างๆ มีรูปมากมายจากการวอร์ม และการกระทำในสนาม ผมมีเสื้อในกรอบรูป แต่ผมไม่คิดว่าผมมีรองเท้าคู่นั้นอีกต่อไป!"
ที่มา : https://www.liverpoolfc.com/news/features/395107-i-remember-every-detail-jack-robinson-on-the-day-he-made-lfc-history
ตอบส่งต่อ
อัพเดทความฟิตล่าสุดของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน
เจอร์เก้น คล็อปป์ คาดหวังให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กลับมาสู่การซ้อมเต็มรูปแบบได้ในวันอาทิตย์นี้, หมายความว่ากัปตันทีมจะเข้ามายังการแข่งขันสำหรับเกมแชมเปียนส์ลีก นัดกลางสัปดาห์กับแอตเลติโก มาดริด
การบาดเจ็บกล้ามเนื้อแฮมสตริงที่ประสบมาระหว่างเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรกที่เอสตาดิโอ เมโทรโปลิตาโน่เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ได้ทำให้เขาไม่มีส่วนร่วมกับ 4 เกมหลังสุดของลิเวอร์พูล
อย่างไรก็ตาม, เฮนเดอร์สันกำลังใกล้ที่จะกลับมา และเขาเตรียมยกระดับโปรแกรมการฟื้นตัวของเขาที่เมลวู้ดในวันพรุ่งนี้
ขณะที่คล็อปป์มั่นใจกว่า แอนดี้ โรเบิร์ตสัน จะพร้อมลงสนามสำหรับการพบกับแอตเลติโกในวันพุธนี้หลังจากเขาพลาดชัยชนะที่มีต่อบอร์นมัธจากการที่เป็นการป้องกันเอาไว้ก่อน
ผู้จัดการทีมบอกในการแถลงข่าวหลังเกมของเขาว่า: "สิ่งที่ผมได้ยิน, มันควรจะเป็นไปได้ หลังจากนั้นเราจะทำมันได้หรือไม่, ผมไม่รู้"
"ร็อบโบ้ไม่ควรจะมีปัญหา; เขาแค่พลาดวันนี้เท่านั้น"
"เขาจบการซ้อมเมื่อวานนี้หลังจากนั้นเขารู้สึกถึงบางสิ่ง, แต่ ณ ตอนจบมันไม่มีอะไร"
"เฮนโด้ไม่มีชื่อเกมนี้, ผมไม่รู้อย่างแน่ชัดในตอนนี้, แต่ผมคิดว่าเขาจะซ้อมได้ในวันพรุ่งนี้ หากนั่นดูดี, ผมจะต้องทำการตัดสินใจ"
"แน่นอนว่ามันจะดีกับการมีเขากลับมา และผู้เล่นคนอื่นๆบางคนก็ด้วย"
ที่มา : https://www.liverpoolfc.com/news/first-team/389755-jordan-henderson-andy-robertson-fitness-injury-update-jurgen-klopp
เจอร์เก้น คล็อปป์ อัพเดทความฟิตของ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน
แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ไม่มีชื่อในกลุ่มนักเตะสำหรับการแข่งขันกับบอร์นมัธวันเสาร์นี้จากการที่เป็นการป้องกันเอาไว้ก่อน และเขาจะฟิตสำหรับเกมแชมเปี้ยนส์ลีกกับแอตเลติโก มาดริด, เจอร์เก้น คล็อปป์ อธิบาย
ฟูลแบ็ครายนี้ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมการแข่งขันพรีเมียร์ลีกที่แอนฟิลด์หลังจากรู้สึกถึงการบาดเจ็บเล็กน้อย - การบาดเจ็บซึ่งจะไม่ส่งผลกับความพร้อมลงสนามของเขาในสัปดาห์หน้า
เมื่อถูกถามว่าที่โรเบิร์ตสันไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมนี้เนื่องจากการหมุนเวียนนักเตะหรือปัญหาความฟิตหรือไม่, คล็อปป์บอก BT Sport ว่า: "เป็นบางสิ่งระหว่าง 2 เรื่องนั้น"
"เขาจะเป็นตัวจริงในวันนี้แต่หลังจากนั้นเขารู้สึกถึงบางสิ่งเล็กน้อย แต่ทั้งหมดมันดี, มันจะโอเคสำหรับวันพุธนี้ แต่ไม่ใช่สำหรับวันนี้"
"ดังนั้นเราไม่ต้องการที่จะมีเขาอยู่บนม้านั่งสำรองแล้วเห็นร็อบโบ้ และคิดว่า, 'เราอาจจะนำคุณลงมา' มันจะไม่เมคเซ้นส์ในวันนี้ นั่นคือเหตุผล และเขาจะโอเค"
ที่มา : https://www.liverpoolfc.com/news/first-team/389687-jurgen-klopp-provides-andy-robertson-fitness-update
เจอร์เก้น คล็อปป์ เปิดเผยถึงอาการบาดเจ็บของ อลิสสัน เบ็คเกอร์
วันเสาร์นี้ อลิสสัน เบ็คเกอร์ จะไม่มีส่วนร่วมในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกกับบอร์นมัธหลังจากประสบปัญหาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ
ผู้รักษาประตูของลิเวอร์พูลได้รับบาดเจ็บก่อนการแข่งขันเอฟเอ คัพ นัดกลางสัปดาห์ที่เชลซี และผลการสแกนยืนยันว่าสัปดาห์นี้เขาจะไม่สามารถลงเฝ้าเสาได้
"โชคไม่ดีที่อลิลงเล่นไม่ได้" เจอร์เก้น คล็อปป์ พูดในการแถลงข่าวก่อนเกมของเขา
"เขามีอุบัติเหตุนิดหน่อยในการซ้อมก่อนเกมกับเชลซี เราทุกคนคิดว่ามันไม่มีอะไร และมันชัดเจนว่าเขาจะไม่ได้เล่นแต่อย่างใด, แผนการคือเขาอยู่บนม้านั่งสำรอง"
"ที่นั่น, เราคิดว่า, 'ออกไปลุย, เราไม่ต้องคว้าความเสี่ยงใดๆก็ตามแต่' ผมจึงไม่ได้ใส่เขาในกลุ่มนักเตะ มีผลสแกนในวันถัดมา และพวกเขาค้นพบบางสิ่ง ดังนั้นตอนนี้เขาจึงลงเล่นไม่ได้ แน่นอนเราจะได้เห็นกันว่าสัปดาห์แล้วหลังจากนั้นเราจะได้เห็นกัน"
พูดถึงธรรมชาติของการบาดเจ็บแบบเฉพาะเจาะจง, ผู้จัดการทีมพูดเสริมว่า: "กล้ามเนื้อ, เล็กน้อย, บริเวณสะโพก เป็นกล้ามเนื้อเล็ก หากเป็นคุณ ทุกคนยังสามารถจะทำงานของคุณได้แต่ผู้รักษาประตูอาชีพมีความแตกต่างนิดหน่อย นั่นคือสถานการณ์"
เคสอื่นๆ, คล็อปป์เปิดเผยว่า นาบี้ เกอิต้า กลับมาซ้อมแล้ว, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ยังคงไม่พร้อมเป็นตัวเลือกแต่กำลังตั้งเป้าที่จะกลับมาสำหรับเกมแชมเปี้ยนส์ลีกกับแอตเลติโก มาดริดในสัปดาห์หน้า, และ เซอร์ดาน ชาคิรี่ ยังคงพักรักษาตัวอยู่ข้างสนาม
ที่มา : https://www.liverpoolfc.com/news/first-team/389581-lfc-fitness-latest-klopp-on-alisson-henderson-keita-and-shaqiri
‘เราทำงานหนักเพื่อมัน’ – จินี่ ไวจ์นัลดุม พูดถึงการไม่แพ้ทีมใดในลีกมา 38 เกมติดต่อกันของลิเวอร์พูล
การดำเนินการไม่แพ้ทีมใดในพรีเมียร์ลีกเทียบเท่า 1 ฤดูกาลคือผลผลิตของความมุ่งมั่นที่จะมองหาการทำให้ดีกว่าเดิมของลิเวอร์พูล, จากการเปิดเผยโดย จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
เมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นหงส์แดงเอาชนะท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 1-0 เพื่อดำเนินการสถิติที่ยอดเยี่ยมของพวกเขาในฤดูกาลนี้ต่อไป และเพิ่มความได้เปรียบในการเป็นทีมนำของพวกเขาต่อไป
การจบสกอร์อย่างมั่นใจของ โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ ก่อนจบครึ่งแรกเพียงพอที่จะสร้างมาตรฐานขึ้นมาใหม่สำหรับยอดเยี่ยมใน 21 เกมแรกของลีกสูงสุด, โดยไม่มีทีมใดในลีกท็อป 5 ของยุโรปที่เคยมาถึง 61 คะแนนที่ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำได้
"มันเหลือเชื่อ" ไวจ์นัลดุมซึ่งเป็นคนที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมตรงกลางสนามเกมกับสเปอร์ส, พูดกับเว็บไซต์สโมสรถึงการไม่แพ้ทีมใดในพรีเมียร์ลีกของพวกเขามา 38 นัดติดต่อกันนับตั้งแต่ฤดูกาล 2018-19
"แต่เราเองทำงานกันอย่างหนักจริงๆเพื่อทำให้การดำเนินการนี้ไปต่อ, เรามีผู้จัดการทีมซึ่งทำให้เราติดดิน และทำงานหนักมากยิ่งกว่าเดิม"
"ทุกๆวันเมื่อเราทำการฝึกซ้อมหรือทำการเล่นเกม, เราจะพยายามทำมันให้ดีกว่าที่เราเคยทำมาก่อน เรามองหาการทำมันให้ดีขึ้นอยู่เสมอ"
การขาดประตูที่ 2 สำหรับผลงานที่เหนือกว่าของพวกเขาโดยส่วนใหญ่ของเกมกับทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ หมายความว่าลิเวอร์พูลต้องยังคงเล่นในลอนดอนด้วยความมุ่งมั่นเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะนัดล่าสุดของพวกเขา
ซอน ฮง-มิน และ โจวานนี่ โล เซลโซ่ มีคนละโอกาสที่จะเก็บ 1 คะแนนให้เจ้าบ้าน - และไวจ์นัลดุมได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆของการแข่งขันอย่างเป็นประโยชน์
"ทางด้านการใช้ความแข็งแกร่งทางด้านร่างกายมันยากจริงๆแต่ผมคิดว่าเพราะในครึ่งหลังเราทำให้มันยากจริงๆสำหรับตัวเราเองด้วย" ผู้เล่นชาวดัตช์กล่าว
"ผมคิดว่าครึ่งแรกเราเล่นได้ดีแต่เราผ่อนเกม และให้ความมั่นใจกับพวกเขานิดหน่อย เพราะมันแค่ 1-0 เท่านั้น, พวกเขามีความมั่นใจว่าพวกเขาสามารถจะตีเสมอได้ และในครึ่งหลังคุณรู้ว่าพวกเขาจะมา และพยายามจะตีเสมอ นั่นคือสิ่งที่ทำให้มันยากขึ้น - และเพราะเราไม่ได้ทำสิ่งที่เราทำในครึ่งแรกด้วย"
"ผมคิดว่านั่นคือเหตุผลว่าทำไมมันจึงยากจริงๆ โดยปกติแล้วมันเป็นความยากเสมอเมื่อคุณเล่นกับท็อตแน่มฯแต่ผมคิดว่าเราทำให้มันยากกว่าสิ่งที่มันเป็น"
"มันแค่ 1-0 เท่านั้นดังนั้นพวกเขามีความมั่นใจเพื่อที่จะพยายามทำประตู เราต้องทำให้ดีกว่านี้กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ตอนจบเราป้องกันได้ดีแต่หลายๆจังหวะในเกมเราไปให้โอกาสพวกเขา และเราโชคดีท่ีพวกเขาทำไม่ได้"
การจบสกอร์จากเยือนเย็นของเฟอร์มิโน่คือประตูที่ 5 ของเขาใน 6 เกมทุกๆรายการ และเป็นการแสดงให้เห็นถึงฟอร์มการเล่นที่มีความสำคัญต่อทีมจากแข้งชาวบราซิล
'สุดยอด' คือตัวเลือกของคล็อปป์ในการอธิบายถึงผู้เล่นหมายเลข 9 ของเขา, และไวจ์นัลดุมได้นำเสนอถึงมุมมองของเขาเก่ียวกับว่าทำไมการมีส่วนร่วมของเฟอร์มิโน่มันนอกเหนือจากการมีชื่อเป็นผู้ทำประตู
"บ็อบบี้สำคัญต่อทีมอย่างแท้จริง - ไม่เพียงแค่กับประตูต่างๆเท่านั้นแต่กับวิธีการที่เขาเล่นด้วย" มิดฟิลด์ชาวดัตช์กล่าว "เขาทำงานอย่างมาก, แอสซิสต์อย่างมาก และเพราะวิธีการที่เขาเล่น, ทีมสามารถจะเล่นได้ดีขึ้น เขามีความสำคัญในทุกๆส่วน"
ที่มา : https://www.liverpoolfc.com/news/first-team/382441-georginio-wijnaldum-reaction-liverpool-tottenham
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นอังกฤษของฝ่ายชายแห่งปี 2019 โดย BT
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นอังกฤษของฝ่ายชายแห่งปี 2019 โดย BT
กัปตันทีมลิเวอร์พูลเอาชนะการแข่งขันจาก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ แฮร์รี่ เคน เพื่อคว้ารางวัลนี้มาครอง
ระหว่างปีที่ผ่านมาเฮนเดอร์สันทำหน้าที่ให้กับทีมชาติอังกฤษ 7 นัด, ไปถึงการติดธง 50 นัดระหว่างชัยชนะในมอนเตเนโกรเมื่อเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ผู้เล่นวัย 29 ปียังช่วยทัพสิงโตคำรามให้เข้าไปเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลยูโร 2020 ด้วย และจบอันดับ 3 ในการแข่งขันยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก
ในระดับสโมสร, เฮนเดอร์สันชู 3 ถ้วยรางวัลระหว่างปี 2019 จากการที่ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ
ลูซี่ย์ บรอนซ์ อดีตกองกลางลิเวอร์พูลทีมหญิง, ตอนนี้ของโอลิมปิก ลียงได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นอังกฤษแห่งปีของฝ่ายหญิง
ที่มา : https://www.liverpoolfc.com/news/first-team/382718-jordan-henderson-named-england-men-s-player-of-the-year
ลิเวอร์พูลจะพบกับชรูว์สบิวรี่ ทาวน์ในการแข่งขันเอฟเอ คัพ รอบ 4
ลิเวอร์พูลจะเล่นกับชรูว์สบิวรี่ ทาวน์ที่มอนต์โกเมอรี่ย์ วอเตอร์ส มีโดว์ สเตเดี้ยมในวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม, เวลา 00.00 น. (เช้าวันจันทร์ที่ 27 มกราคม) สำหรับการแข่งขันเอฟเอ คัพ รอบ 4
ทีมจากลีก วันการันตีการพบกับหงส์แดงของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ด้วยการเอาชนะบริสตอล ซิตี้ 1-0 ในการแข่งขันรอบ 3 นัดแข่งใหม่เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
โปรแกรมดังกล่าวหลังจากนี้ในเดือนนี้จะเป็นครั้งแรกที่ทั้ง 2 สโมสรพบกันนับตั้งแต่ปี 1994 เมื่อลิเวอร์พูลของ รอย อีแวนส์ ชนะที่เกย์ มีโดว์ 4-0 ในรอบเดียวกันนี้ของการแข่งขัน
เกมจะถ่ายทอดสดทาง BBC (ของอังกฤษ)
ที่มา : https://www.liverpoolfc.com/news/first-team/382561-fa-cup-fourth-round-opponents-confirmed
โค้ชประตูสำรองเชื่อ เคลเลเฮอร์ คือผู้รักษาประตูชั้นเยี่ยม
ความนิ่งของ ควิวิน เคลเลเฮอร์ ในระหว่างชัยชนะการดวลจุดโทษสุดดราม่าที่มีต่ออาร์เซนอลของลิเวอร์พูลไม่ได้สร้างความแปลกใจให้กับ มาร์ก มอร์ริส โค้ชผู้รักษาประตูชุดยู23
เคลเลเฮอร์สร้างการเซฟอย่างยอดเยี่ยมเพื่อปฏิเสธจังหวะของ ดานี่ เซบายอส จากการที่หงส์แดงเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลคาราบาว คัพภายหลังการเสมอกันอันน่าเหลือเชื่อ 5-5 ที่แอนฟิลด์
มันคือค่ำคืนที่น่าภูมิใจสำหรับศูนย์เยาวชนด้วยการที่กัปตันทีมชุดยู23 เคอร์ติส โจนส์ เองก็ซัดจุดโทษที่ทำให้ทีมชนะเช่นกัน, และมอร์ริสรู้สึกยินดีกับการได้อยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญของเคลเลเฮอร์
"แม้ว่าเคาอิมฮินจะปักหลักอยู่ที่เมลวู้ดแต่ไม่ว่าตรงไหนก็ตามที่พอจะเป็นไปได้เขาจะลงมาเล่นให้ทีมชุดยู23" มอร์ริสเผยกับเว็บไซต์สโมสร
"เขาเล่นเมื่อวันเสาร์ให้กับทีมชุดยู23 กับแบล็คเบิร์น โรเวอร์สซึ่งนำไปสู่คืนวันพุธสำหรับเขา ผมได้อวยพรให้เขาโชคดีในวันนั้นของเกม"
"เมื่อเขาลงมายังศูนย์เยาวชนเขายอดเยี่ยม และเขากำลังก้าวหน้าเป็นอย่างดีจริงๆ เขาคือผู้รักษาประตูชั้นเยี่ยม"
"นับตั้งแต่จอห์น และแจ็ค ที่เมลวู้ด และทุกๆคนของเราที่นี่ที่ศูนย์เยาวชน, เราทุกคนมีส่วนกับพัฒนาการของเขา"
"ปัจจุบันเขายังคงพัฒนาแต่เราทุกคนให้กำลังใจเขา และขออวยพรให้เขาโชคดี ก่อนเกมคุณมีความกังวลภายในตัวคุณเองสำหรับเขานิดหน่อยซึ่งเป็นความยอดเยี่ยมเนื่องจากเราสนิทกัน"
สำหรับการดวลจุดโทษ, มอร์ริสเปิดเผยว่าการทำการบ้านอย่างมากเป็นการช่วยผู้รักษาประตูให้รับมือกับสถานการณ์ที่อยู่ภายใต้ความกดดันเช่นนั้น
"แน่นอนว่านั่นเป็นส่วนหนึ่งในบทบาทของผู้รักษาประตู และจอห์นกับแจ็คคงจะนั่งคุยกับเขาก่อน หากคุณย้อนกลับไปดูมันผมคิดว่าเขาไปถูกทางสำหรับทุกๆจุดโทษ" เขากล่าว
"คุณทำการศึกษาของคุณมา, ดูหลายๆจุดโทษ และดูหลายๆคลิปเท่าที่คุณจะสามารถทำได้ดังนั้นผู้รักษาประตูทั้งหลายจะมีไอเดียของสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น"
ที่มา : https://www.liverpoolfc.com/news/academy/371570-caoimhin-kelleher-mark-morris-anfield-debut